เพื่อนผู้ก่อเหตุรับน้องโหด อ้าง! รุมกระทืบ เพราะทนไม่ไหว 2 พ่อลูกปากแจ๋ว 

Author:

เพื่อนผู้ก่อเหตุรับน้องโหด นำคลิปเสียง อ้าง! รุมกระทืบ 2 พ่อลูกสาหัส ต่อหน้าอาจารย์ กลาง ม.ดัง เพราะพ่อลูกปากแจ๋ว แถมโทรขู่ จนทนไม่ไหว

เพื่อนผู้ก่อเหตุขอพูดบ้าง!

หลังจากวานนี้ (15 ส.ค. 67) เวลา 17.00 น. นายโต้ง อายุ 54 ปี และน.ส.ก้อย อายุ 39 ปี พ่อและแม่ของ “น้องไตเติ้ล” อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านจังหวัดนนทบุรี เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ที่รับน้องโหดทำร้ายลูกชาย หลังจากลูกชายไปขอลาออกจากการเข้าระบบการรับน้อง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวอยู่ที่ รพ.กรมชลประทาน ขณะที่นายโต้งคุณพ่อเองก็ถูกกลุ่มนักศึกษาทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ภายในมหาวิทยาลัยชื่อดัง ต่อหน้ารองอธิการบดี แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุก็ไม่เกรงกลัวกระทืบนายโต้ง กับลูกชาย ก่อนหลบหนีออกจากมหาวิทยาลัยไป

ล่าสุดวันนี้ (16 ส.ค.67) นายเอ อายุ 22 ปี นักศึกษามหาลัยชื่อดัง ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์และเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับผู้ก่อเหตุ ได้นำหลักฐานคลิปเสียงที่บันทึกไว้ในวันที่ 14 ส.ค.67 ก่อนวันเกิดเหตุมอบให้ผู้สื่อข่าว พบว่าเป็นคลิปเสียงขณะที่นายเติ้ลคนเจ็บ และพ่อของนายเติ้ล โทรมาท้าทายข่มขู่ทำร้ายร่างกาย จะบุกเข้ามาหาลัยเพื่อเข้าไปจบชีวีต พร้อมขู่จะเข้าไปตัดเศียรองค์พ่อพระวิษณุกรรมหน้ามหาวิทยาลัย ที่ทุกคนกราบไว้บูชา

นายเอ เล่าว่า นายเติ้ลคนเจ็บรุ่นน้องคนดังกล่าว ได้เข้ามาขอเข้าร่วมรับน้องกับตน ซึ่งการรับน้องนั้นไม่ได้เกี่ยวกับทางมหาลัยแต่อย่างใด ไม่ได้มีการบังคับ หรือข่มขู่ว่าต้องมาเข้ารับน้อง ในการรับน้องจะรับน้องกันนอกสถานที่ไม่ใช่พื้นที่มหาลัย ก็จะมีการลุกนั่ง วิดพื้นตามปกติ ในประเด็นที่พ่อแม่น้องคนเจ็บให้ข่าวว่ามีการทำร้ายร่างกายทุกวัน ให้น้องกินดิน ซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง

ส่วนสาเหตุที่มีปัญหากัน ตนทราบว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค.67 ที่ผ่านมา ทางน้องเติ้ลได้ออกจากการรับน้อง เท่าที่ตนรู้น่าจะมีปัญหาส่วนตัวอะไรสักอย่าง ตนก็ได้พูดคุยถามไถ่แต่ทางน้องยืนยันที่จะออกจากการรับน้อง ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร ทางเพื่อนๆ ตนจึงขับรถไปส่งน้องที่บ้านและก็แยกย้ายกันตามปกติ

ต่อมาวันที่ 14 ส.ค. 67 ทางน้องเติ้ลและพ่อของน้องเติ้ล ได้โทรมาด่าทอ โดยโทรมาทางโทรศัพท์เพื่อนของตนมีการด่าไปถึงพ่อแม่ โดยการใช้คำพูดว่า “เดี๋ยวกูจะไปเตะหน้าพวกมึงรอเลย” และมีอีกหลายประโยคตามคลิปเสียงที่ตนใช้เป็นหลักฐาน และมีการท้าให้ตนเข้าไปหาแต่ตนก็ไม่ได้ไป ทั้งนี้ยังพูดขู่ต่ออีกว่า “พรุ่งนี้เดี๋ยวกูเข้าไป มึงอยู่มอใช่ไหม มึงเตรียมคนมารอรับศพพวกมึงเลย เดี๋ยวกูเข้าไป” ซึ่งโทรหาแบบนี้หลายสายแทบทั้งวัน แต่พวกตนไม่ได้ไปตามที่พวกเขานัด โดยมีการท้าทายกันไปมาตามคลิป นอกจากนี้นายเติ้ล มีการข่มขู่จะบุกเข้ามาตัดเศียรองค์พ่อพระวิษณุกรรมที่ทุกคนต่างกราบไหว้บูชาหน้ามหาลัยอีกด้วย ทำให้ทุกคนก็ไม่พอใจ เพราะถูกด่าขู่ฆ่าต่างๆ นาๆ

กระทั่ง วานนี้ (15 ส.ค. 67)  เวลาประมาณ 12.00 น. นายเติ้ลรุ่นน้องคนดังกล่าว ก็ได้เดินทางมาที่มาหาวิทยาลัย พร้อมกับพ่อแม่ โดยได้เดินขึ้นไปคุยกับอาจารย์บนตึกเรื่องอะไรตนไม่ทราบ หลังพูดคุยเสร็จ ทางนายเติ้ลและพ่อก็ได้เดินลงมาจากอาคารแล้วก็พบเจอกับพวกตนที่นั่งเล่นอยู่ใต้อาคารประมาณ 10 กว่าคน พอเจอกันทางกลุ่มเพื่อนตนก็ได้พูดคุยประเด็นที่มีปัญหากันผ่านทางโทรศัพท์ ก่อนจะเกิดอารมณ์ เพื่อนตนมีการชกต่อยไป ตอนนั้นตนอยู่ในเหตุการณ์เท่าที่เห็นและจำได้มีเพื่อนตนประมาณ 1-2 คน ที่เป็นคนลงมือทำร้ายจริงๆ อาจมีมากกว่านั้นซึ่งไม่เกิน 3-4 คนอย่างแน่นอน เพราะที่เหลือวิ่งเข้าไปห้ามกันหมด ซึ่งตามข่าวที่มีการบอกว่ารุมทำร้าย 20 คนนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะตนเป็นคนไปช่วยห้าม

นายเอ เล่าต่อว่า สรุปง่ายๆ เรื่องนี้สาเหตุหลักก็คือ ทางกลุ่มเพื่อนตนน่าจะทนไม่ไหวกับคำพูดท้าทายขู่ฆ่าของนายเติ้ล และพ่อ ที่โทรมาก่อนเกิดเหตุ

ขณะที่ วานนี้ (15 ส.ค.67) เวลา 23.30 น. พ่อและแม่ของน้องไตเติ้ลพร้อมด้วยญาติๆ ต่างมารอเฝ้าดูอาการของน้องเติ้ลอย่างใกล้ชิด ที่โรงพยาบาลกรมชลประทานปากเกร็ด โดยพบว่าหมอ ได้ย้ายน้องไตเติ้ลจากห้องผู้ป่วยวิกฤตมาอยู่ห้องผู้ป่วยรวมและ น้องเติ้ลมีอาการดีขึ้นเล็กน้อย สามารถตอบคำถาม และพูดคุยกับพ่อแม่ได้ ส่วนอาการทางแพทย์อยู่ระหว่างรอตรวจเช็คสมองอย่างละเอียด เบื้องต้นไม่พบว่ามีเลือดคั่งในสมอง แต่ต้องนอนโรงพยาบาล เพื่อรอดูอาการ เนื่องจากยังไม่สามารถลงจากเตียง หรือเข้าห้องน้ำเองได้ ต้องใส่แพมเพิสให้น้องเติ้ลไว้ตลอดเวลา

พ่อน้องเติ้ล เล่าว่า ที่ผ่านมา รุ่นพี่กลุ่มดังกล่าว มีการทำร้ายร่างกายน้องเติ้ล ต่างๆ นาๆ ทั้งเอาไฟเผาขนรักแร้และขนอวัยวะเพศ หลังจากที่น้องโดนมาน้องทนไม่ไหวจึงบอกความจริงกับแม่และบอกว่าจะขอออกจากระบบ แต่รุ่นพี่มีการข่มขู่และมีการมาถ่ายรูปที่บ้าน และรถจยย.พร้อมกับบอกว่า “ถ้ามึงออกจากระบบกูจะตามไปกระทืบจนตาย” แถมได้ยึดบัตรประชาชนกับพาวเวอร์แบงค์ของน้องไปด้วย และรุ่นพี่ยังข่มขู่ต่ออีกว่าบอกแม่มารอรับศพลูกตนที่หน้าโรงเรียนโรงเรียนด้วย วันเกิดเหตุตนเข้าไปที่สถาบัน เพื่อจะขอย้ายลูกไปอยู่สถาบันอีกเขต หลังจากที่ลงมาจากตึกกลุ่มผู้ก่อเหตุตะโกนเข้ามาและเดินปรี่เข้ามาบอกว่ามึงท้ากูหรอ หลังจากนั้นก็กระทืบลูกตนต่อหน้าอาจารย์ และตนจะเข้าไปป้องลูกก็โดนไปด้วย

หลังจากเกิดเรื่องตนได้พาลูกมาหาหมอที่โรงพยาบาล มีอาการปวดศีรษะ เพราะถูกกระทืบที่หัวหลายครั้ง ส่วนบาดแผลของตนถูกรุมกระทืบที่หน้ากกหูแขนนิ้วมือและนิ้วเท้า ตอนนี้ตนรู้สึกเสียใจมากเพราะที่ไปสถาบันไม่เคยคิดจะไปมีเรื่องกับเด็ก เพราะตั้งใจจะย้ายสถาบันให้ลูกเพราะลูกอยากเรียนมากๆ จากที่ตนสอบถามลูกเรื่องการรับระบบลูกบอกว่าทางรุ่นพี่มีการรวมเงินกันไว้ เพื่อเป็นการประกันตัวของคนที่ไปก่อเหตุและเอาไว้จ้างทนายเหมือนเป็นเงินสโมสรเก็บไว้เพื่อใช้ใช้จ่ายให้กับเด็กพวกนี้ ส่วนสาเหตุที่ลูกตนโดนมาหนักเพราะว่ารุ่นพี่บอกว่าน้องเอาสถาบันไปขาย แต่น้องไม่ได้ทำตอนนี้จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะตนคิดว่าเด็กกลุ่มนี้ ไปทำแบบนี้กับคนอื่นมาเยอะพอสมควรแต่ไม่มีใครกล้าออกมาพูด ซึ่งฟังจากหลายคน มีคนโดนเยอะแต่ไม่กล้าบอกผู้ปกครองเพราะโดนข่มขู่จากรุ่นพี่ ตอนนี้ห่วงเรื่องความปลอดภัยเพราะทางกลุ่มผู้ก่อเหตุรู้จักบ้านของตนและถ่ายทะเบียนรถไว้หมด จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการให้จริงจัง

ขอให้น้องเติ้ลปลอดภัยนะคะ หากมีความคืบหน้าจะอัปเดตให้ทราบ

เรียบเรียง ejan.co