เอกชนห่วงไทยนำเข้าสินค้าจีนพุ่ง 7.12% หวั่นทำอุตฯไทย 23 กลุ่มพัง

Author:

เอกชนห่วงไทยนำเข้าสินค้าจีนพุ่ง 7.12% แพ้กลยุทธ์สงครามสินค้าราคาถูก หวั่นถล่มอุตฯไทย 23 กลุ่มพัง

วันนี้ (7 ส.ค.67) นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า การประชุม กกร.ประจำเดือนส.ค.67 กกร.มีความกังวลต่อการขาดดุลการค้าระหว่างไทยกับจีน ล่าสุด 6 เดือนแรกของปี 67 มีการนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นถึง 7.12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน คิดเป็นมูลค่ากว่า 37,569.89 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้าจากจีน -19,967.46  ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.66% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

ซึ่งส่งผลกระทบกับภาคการผลิตกว่า 23 กลุ่มอุตสาหกรรม อีกทั้งยังถูกซ้ำเติมจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เข้ามาเปิดตลาดในประเทศโดยขายสินค้าจากโรงงานตรงสู่ผู้บริโภคในราคาถูก ซึ่งเป็นการค้ารูปแบบใหม่ของจีน ยิ่งกดดันผู้ประกอบการรายย่อย (เอสเอ็มอี) เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันทั้งด้านราคา และต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าได้

นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย

ดังนั้น เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยแข่งขันได้ ภายใต้เมกะเทรนด์ของโลกที่มีสินค้าไม่ได้คุณภาพเข้ามาตีตลาดจากภาวะอุปทานส่วนเกิน (Over Supply) ที่ประชุม กกร. จึงขอเสนอให้รัฐบาลเข้มงวดการตรวจสอบมาตรฐานสินค้านำเข้า กำกับและควบคุมสินค้าที่หลีกเลี่ยงภาษี โดยบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้าภายในประเทศอย่างเข้มข้น โดยสร้างอีโคซิสเต็มที่ทำให้ผู้ประกอบการไทย และห่วงโซอุปทาน (ซัพพลายเชน) ไทยมีความเข้มแข็งและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย-จีน และ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานและส่งเสริมธุรกิจไทย-จีน อย่างยั่งยืน (Thai-Chinese Center for Business Sustainability (TCCBS)) เพื่อแก้ไขปัญหาการค้าและการลงทุน ระหว่างไทยและจีน ให้อยู่ในกรอบของผลประโยชน์ร่วมกันภายใต้กรอบของกฎหมายของทั้งสองประเทศและกติกาสากล

เรียบเรียง ejan.co