ไม่จบ ดราม่าแฟรนไชส์ลูกชิ้นดัง เชฟดัง เบี้ยวจ่าย-ไม่ขอโทษผู้เสียหาย แฉวันขึ้นศาล ไม่กล้ามองหน้า

Author:

ไม่จบ ดราม่าแฟรนไชส์ลูกชิ้นดัง เชฟดัง เบี้ยวจ่าย-ไม่ขอโทษผู้เสียหาย แฉวันขึ้นศาล ไม่กล้ามองหน้า เขาเลือกที่จะปฏิเสธ ไม่ทำอะไรเลย

จากกรณีที่มีกลุ่มผู้เสียหาย จากการซื้อแฟรนไชส์ของเชฟคนดัง ได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังสูญเสียเงินกว่า 2.5 แสนบาท ซื้อแฟรนไชส์แบบขายสูตรขาด โดยอ้างว่ามีการส่งอุปกรณ์ทำลูกชิ้นล่าช้ากว่าข้อตกลงในสัญญา ส่งผลให้เกิดความเสียหายมากมาย จนกลายเป็นเรื่องราวดราม่าในโลกโซเชียล

ซึ่งทางเชฟอ้อยก็ออกมาชี้แจงว่า ในช่วงฤดูฝน การสั่งของทางจีนดีเลย์จึงทำให้การส่งเครื่องเลื่อนไป แต่คนกลุ่มนี้กลับมาขอเงินคืน ทั้งๆที่ได้สูตรแฟรนไชส์และผ่านการอบรมแล้ว อีกทั้งเตรียมดำเนินคดีกับคนที่ออกมาแฉ

ต่อเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2566 เชฟชื่อดังและผู้เสียหาย ได้มาออกรายการดังเพื่อชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยทางผู้เสียหายยืนยันว่าต้องการทวงความยุติธรรม เรื่อง การผิดสัญญา ทั้งเครื่องปั่นลูกชั้นและขายลูกชิ้นให้ในกิโลละ 100 บาท ซึ่งไม่สามารเอากำไรจากตรงนี้ได้เลยกับสัญญาที่ไม่เป็นธรรม

ขณะที่ทนายไพศาล ชี้แจงเรื่องข้อกฎหมายว่า สามารถฟ้องร้องทางแพ่งได้เพราะเชฟไม่ปฏิบัติตามสัญญา จัดส่งเครื่องอุปกรณ์ล่าช้า ทำให้ผู้ซื้อเสียโอกาสทางธุรกิจ ตามที่เคยนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 2 ส.ค. 2567 คุณเล้ง หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ ว่า จากที่ตนเคยมีข้อพิพาทเป็นกระแสข่าวเมื่อปลายปีที่แล้ว ตอนนี้ในส่วนคดีของตน จบที่ชั้นประนีประนอม ซึ่งจริงๆก่อนหน้านี้มีการนัดไกล่เกลี่ยในขั้นแรก แต่ทางจำเลยไม่อยากไกล่เกลี่ยกับตน เพราะเขายืนยันและมั่นใจว่าฝั่งเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ยังไงก็ชนะคดีแน่นอนในความคิดของเขา

ต่อมาการนัดครั้งที่ 2 เพื่อสืบพยาน ทางทนายความฝั่งจำเลย ติดต่อขอไกล่เกลี่ย อาจเพราะเห็นจากพยานหลักฐานของตน ในวันนั้นจำเลยจึงมีการยอมรับผิดว่าทำผิดอะไรบ้าง แต่ก็ไม่ได้ยอมรับทั้งหมดของหลักฐานที่ตนมี ซึ่งตนก็เห็นใจ เพราะเขาน่าจะโดนหลายๆเจ้าฟ้อง ค่าทนายก็น่าจะสูงอยู่ เลยยอมที่จะไกล่เกลี่ย แต่จริงๆก็ไม่ได้อยากมากนักเพราะให้โอกาสไปแล้ว ทั้งนี้ทางจำเลยไม่สามารถชดใช้เงินเป็นก้อนได้ แต่ขอผ่อนชำระทุกๆเดือน ในวันที่ 1 ของเดือน เป็นจำนวน 8 งวด

โดยเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันที่จำเลยต้องชำระเงินงวดแรกกับตน แต่จนถึงตอนนี้ ตนก็ยังไม่ได้รับเงินในส่วนนั้นเลย ต่อมาในเมื่อช่วงบ่ายๆของวันนี้ จึงติดต่อไปทางลูกสาวฝั่งจำเลยว่า มันเลยกำหนดที่ตกลงกันไว้แล้ว จะให้เวลาอีกถึงแค่ 6 โมงเย็นวันนี้เท่านั้น ทางลูกสาวก็บอกว่ากำลังประสานให้ ส่วนหลังจากนี้ ตนก็ไม่รู้ว่าจะต้องยังไงต่อเหมือนกัน ซึ่งฝั่งตนนั้นใจดีมากๆ ลดจำนวนจากที่ฟ้องไปตอนแรกค่อนข้างเยอะแล้ว

แต่สิ่งหนึ่งที่ตนติดใจมากๆ คือตนต้องการคำขอโทษมากที่สุด ซึ่งไม่เคยได้รับคำขอโทษเลยตั้งแต่ตอนที่ไปออกรายการ ถ้าได้รับคำขอโทษ เรื่องมันอาจจะไม่ได้บานปลายมาถึงทุกวันนี้ จนวันที่เราไกล่เกลี่ยกันได้ประนีประนอมกันได้ ทางจำเลยก็แค่ยอมรับผิดแต่ไม่ได้รู้สึกว่าเขาอยากขอโทษตนจริงๆ เพราะฉะนั้นการที่ตนจะได้รับการชดใช้ที่นอกเหนือจากคำขอโทษ ก็อาจจะต้องเป็นจำนวนเงินในตอนนี้แทน

ในส่วนของผู้เสียหายท่านอื่นๆที่มีการฟ้อง ก็มีท่านที่ฟ้องชนะไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการเยียวยาหรือชดใช้เงินเช่นกัน รวมไปถึงมีกรณีที่คดียังอยู่ในขั้นตอนด้วย เพราะแต่ละผู้เสียหายมีกรณีแตกต่างกันไป กรณีของตนซึ่งฟ้องเขาไปเป็นคนแรก ใช้เวลาเตรียมฟ้องตั้งแต่ช่วงต.ค. 2566

แล้วเรื่องก็ค่อนข้างยืดมานานและกลายเป็นกระแส ตอนที่ไปออกรายการช่วงต้นเดือน ธ.ค. 2566 และเพิ่งไกล่เกลี่ยกันจบ ในวันที่ 16 ก.ค.2566 เรื่องที่ฟ้องหลักๆ คือเรื่องสัญญาที่ไม่ได้ปฏิบัติตามเรื่องการส่งมอบอุปกรณ์ และในเรื่องของการที่ตัวเจ้าของเข้ามาขายในพื้นที่ของตน ซึ่งนอกเหนือจากที่ตกลงกันไว้ว่าเป็นพื้นที่ที่ตนจะขายได้แต่เพียงผู้เดียว

นอกจากนี้คุณเล้งยังบอกอีกว่า อัตตาของตัวจำเลยนั้นค่อนข้างสูงเท่าที่ตนสัมผัส จริงๆหากมีการไกล่เกลี่ยหรือมีการคุยที่ดีต่อกัน ตนพร้อมจบตั้งแต่แรก แม้ในทางกฎหมายอาจจะจบแล้วเพราะมีการประนีประนอมเรียบร้อยต่อหน้าศาล

แต่ในด้านความรู้สึกตอนนี้ ตนก็ไม่ได้รู้สึกโอเค ยังจบไม่ได้จริงๆ เพราะเขาไม่ให้คำขอโทษในวันนั้น แต่ยินดีที่จะชดใช้เป็นจำนวนเงิน ซึ่งวันนี้คุณกลับไม่ได้ชดใช้ตามที่ตกลงไว้ ตอนนี้จึงอยากได้ทั้งคำขอโทษและอยากให้เขาทำตามข้อตกลง

ในวันที่อยู่ในศาล เขายังไม่กล้ามองหน้าตนเลย พอถามเขาว่า “รู้สึกผิดกับตนจริงไหม อยากขอโทษตนไหม” เป็นการถามต่อหน้าศาล เขาก็เลือกที่จะไม่มองหน้าและไม่พูดอะไรออกมา แม้จะขอให้ขอโทษผ่านทางโซเชียลหรือมาขอโทษต่อหน้าได้ไหม เขาก็เลือกที่จะปฏิเสธไม่ทำอะไรเลย ตนจึงอนุมานได้ว่า เขาไม่ได้อยากคุยและไม่ได้รู้สึกอยากที่จะขอโทษตน

ในมุมมองของตน อยากมีโอกาสที่จะได้คุยต่อหน้ากับเขาแบบจริงๆ แต่วันที่ไปศาลไม่มีโอกาสเพราะทนายทั้งสองฝั่งกลัวมีการปะทะ ซึ่งตนไม่ใช่คนปะทะอยู่แล้ว สิ่งที่เขาเคยพูดให้สัมภาษณ์ในสื่อก่อนหน้านี้ กับความเป็นจริงและการกระทำของเขาในตอนนี้ มันไม่ไปในทิศทางเดียวกัน และในขณะที่เขายังใช้ชีวิตได้ปกติ แต่ยังมีคนที่ต้องเสียน้ำตา และทนทุกข์ทรมานกับเรื่องนี้

ตนเป็นคนแรกที่ฟ้อง เลยได้คุยกับผู้เสียหายเกือบทุกๆท่าน และปัจจุบันตนก็ยังคุยกับผู้เสียหายอีก 1 จังหวัดที่โดนข้อความขู่ว่า “เรื่องจะไม่ได้จบเหมือนเคสของเล้งนะ ทำอะไรไว้ก็ต้องรับ เขาฟ้องแน่นอน”

ตนจึงอยากบอกว่า ในขณะที่จำเลยออกมาใช้ชีวิตได้ปกติ แต่ยังมีคนที่ต้องเสียน้ำตาและทนทุกข์ทรมานกับเรื่องนี้ ในวันที่ซื้อแฟรนไชส์ จ่ายเป็นเงินสด หาเงินมาให้จนได้ แต่ในวันที่คนซื้อแฟรนไชส์ล้มเหลวจากความผิดพลาดของจำเลย จำเลยก็ต้องกล้าที่จะชดใช้ แฟรนไชส์ทุกคนไม่ได้อยากเข้าใจสถานการณ์ของจำเลยในตอนนี้ เพราะตอนที่ทุกคนมีปัญหาจำเลยก็ไม่ได้เข้าใจพวกตนเช่นกัน

อ่าน ส่องราคาแฟรนไชส์ ‘ลูกชิ้นเชฟอ้อย’ ต้องมีเงินแค่ไหน ถึงลงทุนได้

อ่าน “เชฟอ้อย” แจงเอง ปมดราม่า ‘แฟรนไชส์ลูกชิ้นร้านดัง’ ไม่รับคำขอโทษ เตรียมฟ้อง

เรียบเรียง khaosod.co.th