ตำรวจเกษียณปืนดุ! รัวยิงภรรยาร่างพรุน ก่อนปลิดชีพตัวเองตาม คนใกล้ชิดเผยปมทะเลาะ-หย่าร้าง-แบ่งทรัพย์สิน แถมเคยขู่ถ้าเจอจะยิงให้ตายแล้วขอตายตาม ฝ่ายภรรยาหนีหลบบ้านญาติ กลับมาได้ 3 วันถูกตามเจอ เคลียร์ใจไม่ลง เจอกระสุนมรณะ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่านตาขาว รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง หลังรับแจ้งเหตุ พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก.สภ.ย่านตาขาว นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พบเป็นบ้านชั้นเดียว หน้าบ้านมีรถเก๋งสีดำ ยี่ห้อเอ็มจี ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ห ทราบว่าเป็นของภรรยา ร.ต.ท.โชค ข้าราชการบำนาญตำรวจ ซึ่งเพิ่งก่อเหตุใช้อาวุธปืน 9 มม. ยิงภรรยาตัวเองเสียชีวิตภายในบ้าน

ผู้ก่อเหตุได้พยายามหนีเข้าไปหลบภายในบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ใช้โทรโข่งพยายามเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว แต่ ร.ต.ท.โชคหนีเข้าไปในบ้าน จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงพังประตูรั้วบ้านเข้าไป

ตรวจสอบภายในพบผู้เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อคือ ร.ต.ท.โชค ใช้อาวุธปืน 9 มม. ปลิดชีพตัวเอง เสียชีวิตอยู่บนเตียงนอนนอกห้องนอน ผู้เสียชีวิตอีกรายเป็นภรรยาของ ร.ต.ท.โชค ชื่อ นางสมคิด อายุ 70 ปี เสียชีวิตอยู่ในห้องนอน

เจ้าหน้าที่ได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างภักดีตรัง จุดอำเภอย่านตาขาว แพทย์เวรโรงพยาบาลย่านตาขาว เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและเก็บรายละเอียด วัตถุพยาน คราบเขม่าดินปืน ปลอกกระสุนปืน และวัตถุพยานแวดล้อมต่างๆ ไว้เป็นหลักฐาน โดยเจ้าหน้าที่กันพื้นที่ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าในที่เกิดเหตุ

จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น สภาพศพ ร.ต.ท.โชค นอนเสียชีวิตบนเตียงนอกห้อง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าบริเวณขมับขวา จำนวน 1 นัด โดยมีอาวุธปืน 9 มม.ตกอยู่ข้างกาย ส่วนนางสมคิดนอนเสียชีวิตภายในห้องนอน พบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม.บริเวณกลางหน้าอก จำนวน 2 นัด ราวนมซ้าย 1 นัด บริเวณชายโครงซ้าย 1 นัด และมีแผลฉีกขาดบริเวณแขนซ้ายยาวประมาณ 1 คืบ แขนซ้ายท่อนบนหัก

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ร.ต.ท.โชคมีปัญหาทะเลาะวิวาทกับภรรยามานานแล้ว จนกระทั่งภรรยากลับไปบ้านญาติที่ จ.นครศรีธรรมราช และเดินทางกลับมาบ้านได้เพียงประมาณ 3 วัน จากนั้น ร.ต.ท.โชคขี่รถจักรยานยนต์เดินทางมาหาเพื่อจะเคลียร์ปัญหา แต่ประตูบ้านปิดหมด ร.ต.ท.โชคจึงได้เข้าทางด้านหลังบ้านเพื่อหวังเคลียร์ปัญหากับภรรยา แต่เคลียร์กันไม่สำเร็จ

จึงชักอาวุธปืนประจำกาย ขนาด 9 มม.ที่พกติดตัวตลอดเวลายิงภรรยาเสียชีวิต โดยชาวบ้านได้ยินเสียงปืนจำนวน 2-3 นัด ส่วนเสียงปืนนัดสุดท้ายเกิดขึ้นขณะตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อมให้ ร.ต.ท.โชคมอบตัว ซึ่งเชื่อว่าเป็นนัดสุดท้ายที่ ร.ต.ท.โชคใช้ยิงตัวตายตามภรรยา

ทั้งนี้ หลังจาก ร.ต.ท.โชคยิงภรรยา ได้โทรหาญาติบอกว่ายิงภรรยาแล้ว ให้มารับศพตัวเองด้วย และได้โทรหาเพื่อน ซึ่งเป็นอดีตตำรวจด้วยกันแจ้งว่าตัวเองยิงภรรยาแล้ว จากนั้นญาติและเพื่อนๆ จึงรีบโทรประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รีบมาระงับเหตุ แต่ ร.ต.ท.โชคตัดสินใจยิงตัวเองตายตามภรรยา

มีรายวานว่า ก่อนหน้านี้ ร.ต.ท.โชคเคยประกาศมาก่อนว่า หากเจอภรรยาจะยิงให้ตาย และยิงตัวเองตาย เพื่อนๆ พยายามเตือนสติ แต่มาเกิดเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำศพทั้ง 2 รายไปยัง รพ.ย่านตาขาว เพื่อชันสูตรก่อนเตรียมส่งมอบศพให้กับญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามต่อไป

จากการสอบถาม ร.ต.ท.อำนวย เพื่อนสนิท ร.ต.ท.โชค ที่เดินทางมายังที่เกิดเหตุ ได้รับข้อมูลว่า ร.ต.ท.โชคเป็นข้าราชการบำนาญ ส่วนภรรยาทำธุรกิจส่วนตัว มีปัญหาเรื่องครอบครัวและมีปัญหาเรื่องหย่าร้าง เกี่ยวกับเรื่องแบ่งแยกทรัพย์สิน ก่อนหน้านี้ภรรยาเคยเล่าให้ฟังว่าผู้ก่อเหตุเคยไปขอเงินภรรยา 5,000 บาท แต่ภรรยาไม่ให้จึงการทะเลาะกันและได้ไปขอหย่ากันที่อำเภอ โดยหย่ากันมาได้ประมาณ 2-3 เดือน จากนั้นภรรยาได้หนีออกจากบ้านไปอยู่ที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

ร.ต.ท.อำนวยเผยว่า ตอนหย่าร้างกัน ร.ต.ท.โชคเรียกเงินภรรยาไป 350,000 บาท เบื้องต้นทราบแค่ว่าภรรยาให้เงินสดไป 200,000 บาท จากนั้นให้ ร.ต.ท.โชคไปเอาที่กองบังคับคดี 100,000 บาท และยังให้เงินสดไปอีก 50,000 บาท ส่วนจะให้ครบกันแล้วหรือไม่ตนก็ไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัด และในช่วงหย่าร้างก็ไปทะเลาะกันด้วยที่อำเภอ มีทะเลาะกันและไปแจ้งความจนเป็นคดีให้ตนและผู้กำกับ สภ.ย่านตาขาว มาช่วยเคลียร์ให้

ร.ต.ท.อำนวยกล่าวอีกว่า ตอนแรกก็ตกลงเคลียร์กันได้แล้ว แยกย้ายกัน ล่าสุดผู้ก่อเหตุโทรมาหาเวลาประมาณ 11.26 น. วันนี้ (1 ส.ค.67) แต่ไม่ได้รับสาย เลยไม่ทราบปัญหาในวันนี้ ซึ่งผมกับผู้เสียชีวิตกับอยู่รุ่นเดียวกัน แต่อยู่คนละหน่วย ซึ่งนิสัยของผู้เสียชีวิตตอนยังมีชีวิตอยู่นั้น ไปที่ไหนหรือไปนั่งร้านกาแฟก็จะพกอาวุธปืนอยู่ตลอดเวลา และเคยพูดไว้ว่าถ้าพบภรรยาตรงไหนก็จะยิงทั้งเมียและตัวเอง โดยทั้งคู่เคยเป็นแฟนสมัยนักเรียน ผมเคยเตือนเพื่อนและบอกเพื่อนอีกคนว่าให้นำปืนไปจำนำดีกว่า ปืนจะได้ไม่อยู่กับตัว แต่ไม่คิดว่าจะนำมาก่อเหตุดังกล่าว

เรียบเรียง matichon.co.th