ราชบุรีปลาตายยกคลอง คาดโดนยาเบื่อ ปลาหมอคางดำตายด้วย

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 67  นายอนันต์ สุนทร ประมงจังหวัดราชบุรี นายจำนงค์ จันทวงศ์ ปลัดฝ่ายปกครอง อำเภอเมือง เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมภาค 8 จ.ราชบุรี นางสาวปณัสญา เนียมรักษา นาย อบต.สามเรือน และนางอบ เนียมรักษา ประธานสภาสตรี ต.สามเรือน ร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบปลาลอยตายในลำคลองสามเรือนจำนวนมาก ที่เกิดเหตุตั้งแต่หมู่ 5 ไล่ลงไปจนถึงหมู่ 3 ต.สามเรือน อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยที่ไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งมีชาวบ้านได้ลงไปเก็บปลาที่ลอยเป็นแพในคลองขึ้นมา ซึ่งเริ่มตั้งแต่ประตูน้ำลงไปท้ายน้ำหลายกิโลเมตร ซึ่งชาวบ้านบอกว่านำปลาที่ตายขึ้นมาจากคลองมากกว่า 2 ตัน ทั้งปลาตัวเล็กตัวใหญ่หรือแม้แต่หอยก็ตายลอยขึ้นมา รวมทั้งปลาหมอคางดำก็ตายด้วย

จากการสอบถามนางสาวปณัสญา เนียมรักษา นาย อบต.สามเรือน และนางอบ เนียมรักษา ประธานสภาสตรี ต.สามเรือน เผยว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีปลาตายลอยตาย ซึ่งลำคลองสายนี้เป็นสายหลักของตำบลสามเรือน จึงรีบมาดูพบมีปลาตายตลอดคลอง จึงได้ทำการปิดประตูน้ำบริเวณหมู่ 5 เป็นพื้นที่ต้นคลอง และไปปิดประตูน้ำที่บริเวณหมู่ 3 เพื่อตักปลาที่ตายขึ้นมาให้หมดก่อน เนื่องจากยังไม่ทราบว่าปลาที่ตายนั้นเกิดจากสาเหตุใด ก็จะต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบให้แน่ชัดก่อน

จึงแจ้งทางผู้นำชุมชนให้ช่วยประกาศแจ้งชาวบ้านไม่ให้ใช้น้ำในคลองเป็นการชั่วคราว รวมทั้งห้ามจับปลาในคลองไปกินเพราะเกรงว่าปลาที่ตายในคลองนั้นจะมีสารพิษหรือไม่ พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างน้ำและปลาให้กับทางประมงจังหวัด และสิ่งแวดล้อมจังหวัดไปตรวจพิสูจน์หาสาเหตุที่ทำให้ปลาตายด้วย

ขณะที่กล้องวงจรปิด ที่มีการจับภาพกลุ่มคนที่นำสารบางอย่างใส่กระสอบไปโรยลงในน้ำบริเวณหน้าประตูน้ำในหมู่ 5 เมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 30 ก.ค. นั้นก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นใครและนำสารอะไรมาโรยลงในคลอง ซึ่งยังบอกไม่ได้ว่าจะใช่กลุ่มคนที่เป็นต้นเหตุทำให้ปลาตายหรือไม่ เพราะกล้องก็ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ คงจะต้องตรวจสอบกล้องอีกหลาย ๆ ตัวในพื้นที่ด้วย เรื่องนี้ต้องให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาพิสูจน์ แต่ทางประมงจังหวัด บอกว่า น่าจะมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำในคลอง เพราะปลาที่นำขึ้นมานั้นพบว่าทุกตัวมีเหงือกสีแดงผิดปกติ และมีถุงลมโป่ง จนทำให้ดันตัวปลาลอยขึ้นมาและตายในที่สุด

เบื้องต้นคลองดังกล่าว มีระยะทางมากกว่า 6 กิโลเมตร แล้วยังเชื่อมไปยังในตำบลพิกุลทอง และตำบลบางป่า อีก ซึ่งก็อาจจะได้รับผลกระทบด้วย ส่วนปลาที่เก็บขึ้นมาจากคลองนั้นตอนนี้มีมากกว่า 2 ตัน ได้นำไปทำการฝังกลบในพื้นที่ที่ห่างไกลชุมชนแล้ว ส่วนปลาตายที่ยังเหลือในคลองก็จะต้องค่อย ๆ ไล่เก็บขึ้นมาให้หมดเพราะกลัวว่าหากปล่อยไว้จะทำให้น้ำยิ่งเน่าขึ้นไปอีก ส่วนคนที่ลงไปช่วยเก็บปลาในคลองนั้นตอนนี้ก็เริ่มมีอาการคันตามผิวหนังด้วย

นายอนันต์ สุนทร ประมงจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้ปลาตายนั้นคงต้องดูผลของคุณภาพน้ำก่อนเพราะบริเวณคลองอื่นนั้นไม่มีปลายตายมากขนาดนี้ ต้องให้ทางสิ่งแวดล้อมภาค 8 นำน้ำไปตรวจสอบอีกที ซึ่งที่ต้องมีการแจ้งเตือนชาวบ้านไม่ให้นำปลาไปกินเพราะหวั่นว่า น้ำที่เกิดจากการชะล้างสิ่งสกปรกลงมาหรืออาจจะเป็นยา ก็ต้องแจ้งให้ชาวบ้านได้ระวังไว้ก่อน

เรียบเรียง matichon.co.th