อ่วม! น้ำป่าแควน้อยซัดกระชังปลานับร้อยหลุดลอยเสียหาย ชาวบ้านเผยหนักสุดในรอบ 28 ปี

Author:

อ่วม! ผู้เลี้ยงปลากระชังลุ่มน้ำแควน้อย เจอน้ำป่าซัดกระชังปลานับร้อยหลุดลอยเสียหายหนัก ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำแควน้อย ที่ อ.ไทรโยค ลดลงเล็กน้อย หลังเขื่อนวชิราลงกรณหยุดระบายน้ำ ด้านชาวบ้านเผยหนักสุดในรอบ 28 ปี

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระชังปลาทับทิมของเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในแม่น้ำแควน้อย จำนวนกว่า 70 กระชัง ซึ่งมีปลาทับทิมขนาดพร้อมจับขายเต็มทุกกระชัง ถูกน้ำป่าในแม่น้ำแควน้อยพัดจนเชือกขาดลอยมาติดตอม่อสะพานหนองหญ้า ซึ่งใช้เดินทางข้ามแม่น้ำแควน้อย ในพื้นที่บ้านเกาะสำโรง ต.เกาะสำโรง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

สืบเนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ระดับน้ำในแม่น้ำแควน้อยสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กระแสน้ำไหลเชี่ยว ขณะที่ผู้เลี้ยงปลาบางคนไม่ได้อยู่ในพื้นที่และไม่คาดคิดว่ามวลน้ำจะมาเร็วและแรงขนาดนี้ ทำให้มีกระชังปลาได้รับความเสียหายนับร้อยกระชัง มูลค่าความเสียหายนับ 10 ล้านบาท

ทั้งนี้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ อ.ไทรโยค อ.ทองผาภูมิ และ อ.สังขละบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำของแม่น้ำแควน้อย ส่งผลให้มวลน้ำจำนวนมหาศาลไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อย ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำแควน้อยสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน โรงแรม รีสอร์ท ต่างๆ ที่ตั้งอยู่ริมลำน้ำแควน้อยตลอดสายตั้งแต่ อ.ทองผาภูมิ ลงมาพื้นที่ อ.ไทรโยค มาจนถึง อ.เมืองกาญจนบุรี ถูกน้ำท่วมเสียหาย

ขณะที่ ถนนสายหลักที่มุ่งหน้าไปยังแหล่งท่องเที่ยว สาย 3199 กาญจนบุรี-ศรีสวัสดิ์ ไม่ได้รับผลกระทบ ส่วนถนนทางหลวงหมายเลข 323 กาญจนบุรี-สังขละบุรี ขณะนี้สามารถสัญจรไปมาได้ตามปกติแล้ว ภายหลังจากเกิดน้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมถนนบริเวณหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 11 สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นพค.11) ท้องที่หมู่ 4 บ้านอู่ล่อง ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ ซึ่งสาเหตุเกิดจากมวลน้ำเอ่อล้นมาจากลำห้วยอู่ล่องหลากเข้าท่วม ซึ่งถนนบริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่ต่ำ จึงเป็นเหตุทำให้น้ำท่วมเป็นประจำทุกปีเมื่อถึงฤดูฝน

โดยวานนี้ 27 ก.ค.67 ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย นายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค ดต.รักประสงค์ แสนสม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลน้ำตกไทรโยคน้อย ทหาร ร.29 พล.ร.9 ตชด.136 ปภ.จ.กาญจนบุรี ลงพื้นที่ไปยังบริเวณบ้านปากแซง หมู่ 3 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ถูกน้ำท่วม ท่ามกลางเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของเทศบาลน้ำตกไทรโยคน้อย เร่งเข้าช่วยเรือราษฎรผู้ประสบภัย โดยใช้เรือขนสิ่งของที่ชาวบ้านไม่สามารถนำออกจากบ้านได้ทัน

นอกจากบ้านเรือนราษฎรกว่า 20 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมมิดหลังคาจมบาดาล ยังมีที่พักโรงแรม รีสอร์ทอีกกว่า 10 แห่ง ก็ถูกกระแสน้ำเข้าท่วมเช่นกัน ผู้ประกอบการต้องยกเลิกการจองรวมทั้งต้องนำลูกค้าที่พัก ส่งต่อไปยังที่พักแห่งอื่นที่ไม่ถูกน้ำท่วมต่อไป สร้างความเสียหายให้แก่ธุรกิจการท่องเที่ยว ขณะที่นักท่องเที่ยวบางส่วนที่จองที่พักไว้เพื่อเดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวนี้ต่างพากันยกเลิก หลังทราบว่าเกิดเหตุอุทกภัยในหลายพื้นที่ของ จ.กาญจนบุรี

ล่าสุดเช้าวันนี้ระดับน้ำในแม่น้ำแควน้อย บริเวณบ้านปากแซง ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค ลดลงเล็กน้อย หลังจากที่เขื่อนวชิราลงกรณ หยุดการระบายน้ำตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ระดับน้ำที่ลดลงช้าเป็นผลมาจากฝนในพื้นที่อำเภอไทรโยค และอำเภอทองผาภูมิ ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

โดยชาวบ้านในพื้นที่ อ.ไทรโยค ระบุว่า ปีนี้เป็นปีที่น้ำท่วมหนักที่สุด นับตั้งแต่ปี 2539 ที่ว่าเจอหนักแล้ว ซึ่งในพื้นที่ อ.ไทรโยค ถือว่าฝนตกไม่มากนัก แต่พื้นที่เหนือขึ้นไปทั้ง อ.ทองผาภูมิ และสังขละบุรี มีฝนตกหนัก ประกอบกับน้ำป่าจากลำห้วยต่างๆ ไหลมารวมกัน จึงทำให้มีปริมาณน้ำมาก ซึ่งไม่คาดคิดว่าระดับน้ำจะท่วมสูงถึงขนาดนี้ จึงไม่ได้เตรียมตัวขนย้ายสิ่งของ ทำให้ครั้งนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก

มีรายงานว่า เขื่อนวชิราลงกรณ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในเขื่อน 6,034 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 68% อยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ยังสามารถรับน้ำได้อีก 2,825 ล้านลูกบาศก์เมตร และยังคงมีปริมาณฝนตกลงมาจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง เขื่อนวชิราลงกรณจึงงดการระบายน้ำตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค.เป็นต้นมาและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่ เขื่อนแม่กลอง ได้เพิ่มการระบายน้ำเป็น 1,089 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำแม่กลองท้ายเขื่อนแม่กลอง มีระดับสูงขึ้นจากปัจจุบัน 1-2 เมตร

เรียบเรียง matichon.co.th