ลูกสาว ออกโรงป้อง พ่อตำรวจ ไม่ได้เป็น หัวหน้าแก๊งคอลฯ

Author:

จากข่าวฉาว วงการสีกากี เมื่อตำรวจ ยศ พ.ต.ท. ที่ สภ. แห่งหนึ่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ ถูกกล่าวหาว่า เป็นหัวหน้าแก๊ง คอลเซ็นเตอร์ ก่อนจะถูกจับคาผ้าเหลือง

เรื่องนี้ ลูกสาว ซึ่งตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องหา ออกมาทวงความเป็นธรรมให้พ่อ พร้อมแฉลากไส้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ตัวจริง เพราะความไว้ใจถูกหลอกใช้ ทำให้ชะตาชีวิตเธอกับพ่อตำรวจ ถึงคราวซวย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ล่าสุด น.ส.มายด์ (นามสมมุติ) ลูกสาวของ พ.ต.ท.บัณฑิต ที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้เปิดใจเล่าอีกมุมของคดีนี้ ให้อีจันฟังว่า เรื่องนี้เริ่มต้นจาก “น.ส.ต้า” เป็นลูกติดของเมียใหม่พ่อ ไปทำงานที่พม่า และได้แฟนคนพม่า ชื่อว่า “น.ส.แคท” เป็นคู่รักหญิงรักหญิง และเธอก็เห็นลูกเลี้ยงของพ่อ เป็นเหมือนน้องของเธอ เลยเชื่อใจและไว้ใจ

ต่อมา “น.ส.แคท” อ้างว่า หัวหน้าสั่งให้เอาเครื่องซิมบ็อก มาติดตั้งที่ไทย

หลังจากนั้น น.ส.ต้า ลูกเลี้ยง มาขอความช่วยเหลือจากพ่อของเธอ ให้ช่วยห้องเช่า เพื่อติดตั้งเครื่องซิมบ็อก ตอนนั้นพ่อก็ยังไม่รู้ว่า มันคือเครื่องอะไร เพราะยังไม่เห็น คิดว่าเป็นกล่องสัญญาณอินเทอร์เน็ต

ด้วยความหวัง พ่ออยากช่วยลูกเลี้ยง เลยขับรถจากลำพูน มาหาเธอที่เชียงใหม่ เพื่อฝากเครื่องซิมบ็อก ตอนแรกเธอปฏิเสธไม่รับฝาก เพราะเครื่องมันใหญ่มาก เกะกะห้อง แล้วเสียงดัง น้องขอฝากไว้ก่อน 2-3 วัน เธอเลยยอมให้ฝาก แต่ผ่านไป 2-3 อาทิตย์ น.ส.ต้า และ น.ส.แคท ก็เงียบหายไป ยังไม่มาเอาเครื่องที่ฝากไว้

ต่อมา น.ส.แคท ได้ขอความช่วยเหลือเธออีกครั้ง นำเงินมาเธอไปเปิดห้องใหม่ เพื่อติดตั้งเครื่องซิมบ็อก ด้วยความหวังเธอเลยช่วย เปิดห้องเป็นชื่อตัวเอง

พอเธอเปิดห้องให้แล้ว น.ส.ต้า กับ น.ส.แคท ก็ย้ายเครื่องออกไปเลย เธอยืนยันว่า ไม่เคยได้ค่าจ้าง พอเธอช่วยเปิดห้องให้เสร็จ เธอก็ทิ้งกุญแจไว้ในห้อง เธอก็ไม่ได้ยุ่งอีกเลย ให้ทั้งคู่จัดการกันเอง

จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา น.ส.ต้า กับ น.ส.แคท ได้มาขอความช่วยเหลืออีกครั้ง อ้างว่า สัญญาณอินเตอร์เน็ตในห้องใช้ไม่ได้ ขอย้ายเครื่องซิมบ็อก มาไว้ที่ห้องเธอ 2-3 วัน เธอก็รับปากว่าจะช่วย แต่คราวนี้มา 4 เครื่อง มาพร้อมชั้นวาง

ต่อมา ตำรวจได้นำหมายค้น บุกเข้ามาที่ห้องเธอ พร้อมตรวจสอบเครื่องซิมบ็อก เธอตกใจมาก ไม่คิดว่าเครื่องที่อยู่ในห้องจะผิดกฎหมาย ซึ่งเธอให้ความร่วมมือตำรวจ พาไปตรวจสอบทุกห้อง ที่เธอเป็นคนเปิด จนตำรวจติดตามจับกุม น.ส.ต้า กับ น.ส.แคท ได้ในที่สุด ขณะกำลังเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ต อยู่ภายในห้อง

พอมีข่าวออกไปว่า พ่อเธอเป็นหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เธอรู้สึกไม่โอเค ที่เอารูปและยศตำแหน่งพ่อของเธอไปโชว์แบบนั้น เธอยืนยันว่า พ่อไม่ได้เป็นหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ได้หลอกลวงคนอื่น แล้วเธอก็ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่ที่ทำไปเพราะหวังดีกับน้อง ไม่คิดว่าเครื่องซิมบ็อก จะเป็นของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ตอนนี้เธอกับพ่อได้รับการประตัว พร้อมที่จะสู้คดีต่อไป

เรื่องนี้ ใครผิด ใครถูก เดี๋ยวความจริง ก็ปรากฏ
เพราะความจริง ก็คือ ความจริง
 !

เรียบเรียง ejan.co