กระทรวงพลังงาน (พน.) สยบข่าวค่าไฟฟ้าไทยแพงสุดในอาเซียน “ไม่จริง”

Author:

จริงมั๊ย? กระทรวงพลังงาน (พน.) สยบข่าวค่าไฟฟ้าไทยแพงสุดในอาเซียน “ไม่จริง” เปิดเหตุผลทำไมเพื่อนบ้านจ่ายค่าไฟถูกกว่า-คุณภาพต่างกันแค่ไหน

หลังจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เห็นชอบการคำนวณประมาณค่าเอฟที สำหรับงวดเดือนก.ย.-ธ.ค.67 ใน 3 กรณี ตั้งแต่ 4.65-6.01 บาทต่อหน่วย จากงวดปัจจุบัน 4.18 บาทต่อหน่วย โดยจะเปิดประชาพิจารณ์ตั้งแต่ 12-26 ก.ค. นี้

วันนี้ (18 ก.ค.67) รายงานจาก นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน (พน.) กล่าวถึงข้อกังวลของประชาชนและภาคเอกชนเกี่ยวกับ การปรับขึ้นค่าไฟฟ้างวดเดือนกันยายน -ธันวาคม 2567 ว่า กระทรวงพลังงานกำลังเร่งหาแนวทางเพื่อลดภาระค่าครองชีพประขาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ภาครัฐให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก

โดยกระทรวงพลังงานจะดำเนินการบริหารจัดการและประสานทุกภาคส่วน จะหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) พิจารณาปรับลดค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ “ค่าเอฟที” ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานก็ได้ให้ความสำคัญและได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันในการบริหารต้นทุนค่าไฟเพื่อบรรเทาผลกระทบประชาชน

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าค่าไฟของไทยแพงที่สุดในอาเซียนนั้น ไม่เป็นความจริง ค่าไฟของไทยอยู่ในระดับปานกลาง ที่มีข่าวว่าเวียดนามค่าไฟถูกกว่าไทยมากนั้น เนื่องจากเวียดนามใช้ไฟฟ้าจากพลังงานน้ำค่อนข้างมาก จึงทำให้ต้นทุนถูกกว่า แต่เวียดนามก็ไม่มีความเสถียรด้านไฟฟ้า เกิดไฟฟ้าดับบ่อย อินโดนีเซียก็ใช้ถ่านหินก็ทำให้ต้นทุนถูกกว่า

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานต้องพิจารณาสร้างความสมดุลทั้งด้านความมั่นคงไปพร้อมกับราคาที่เหมาะสม เพราะนอกจากไฟฟ้าจะนำมาใช้ในชีวิตประจำวันของประชาชนแล้ว ไฟฟ้ายังเป็นปัจจัยหลักที่หนุนเสริมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้า และการลงทุนของประเทศ ซึ่งในกระบวนการบริหารจัดการ จึงมีเป้าหมายในการรักษาสมดุลทั้งการดูแลค่าครองชีพ การดูแลคุณภาพ ความมั่นคง ความมีเสถียรภาพ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ในช่วงที่ราคาพลังงานทั่วโลกผันผวนในระดับสูง

นายประเสริฐ กล่าวว่า กระทรวงพลังงาน เข้าใจความรู้สึกของประชาชนและภาคเอกชนที่กังวลถึงค่าไฟฟ้าในงวดเดือนก.ย.-ธ.ค.67 ที่ทาง กกพ. ได้ประกาศออกไป แต่เนื่องจากราคาพลังงานทั่วโลกผันผวนในระดับสูง อีกทั้งกระทรวงพลังงานจะต้องรักษาสมดุลทั้งด้านเสถียรภาพด้านพลังงาน ความน่าเชื่อถือทางการเงินของ กฟผ.

“รวมทั้งก็คำนึงถึงภาระค่าครองชีพของประชาชน ก็จะพยายามอย่างเต็มที่ในการรักษาสมดุล โดยหาแนวทางพิจารณาค่าไฟฟ้าที่จะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุด ส่วนในอนาคตก็จะพิจารณาปรับแผน PDP ให้มีความเหมาะสม รับฟังความคิดเห็นรอบด้านเพื่อให้ราคาพลังงานมีความเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป” นายประเสริฐ กล่าว

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ค่าไฟเป็นเรื่องของต้นทุนการผลิตในทุกๆอุตสาหกรรม ที่จะได้รับผลกระทบก็คือกลุ่มอุตสาหกรรมหนัก สิ่งที่น่าห่วง คือ คู่แข่งของไทย เช่น เวียดนาม ค่าไฟเฉลี่ย 2.70 ต่อหน่วย อินโดนีเซีย ค่าไฟเฉลี่ย 3.33 บาทต่อหน่วย ของไทยงวดปัจจุบันอยู่ที่ 4.18 บาทต่อหน่วยก็ยังสูงกว่าคู่แข่งอยู่ดี

นายเกรียงไกร กล่าวว่า เรื่องนี้ทางส.อ.ท.และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน  หรือกกร. เห็นตรงกันแล้วว่า ราคาเดิมก็มากพออยู่แล้ว ถ้ายิ่งงวดใหม่ปรับแม้ต่ำสุด 4.65 บาทต่อหน่วย ยิ่งสูงเข้าไปอีก สายป่านที่รับได้ อาจไม่เหมือนกันทุกรายสุดท้ายผู้ประกอบการต้องหันไปมองหาสินค้านำเข้าที่ถูกกว่ากระทบกับผู้ประกอบการในประเทศอยู่ดี

เราอยากขอให้ภาครัฐ ช่วยลดค่าไฟ เพราะแค่ราคาค่าไฟ ปัจจุบัน 4.18 บาทต่อหน่วย ก็สู้เขาไม่ได้แล้ว นอกจากคนไทยสู้ไม่ได้แล้ว ยังทำให้ต่างชาติที่จะมาลงทุนในไทย ต้องพิจารณาหนักที่จะเข้ามาลงทุน ทำให้เราเสียโอกาสไปด้วย ดังนั้น การปรับขึ้นค่าไฟมีผลกระทบแน่นอน” นายเกรียงไกรกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลราคาค่าไฟฟ้า โดยสำรวจพื้นที่ในประเทศแถบอาเซียนที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน รายงานข้อมูลเมื่อเดือน ก.พ.67 ดังนี้ 1.สิงคโปร์ เฉลี่ย 8.01 บาท/หน่วย 2.ฟิลิปปินส์ เฉลี่ย 7.10 บาท/หน่วย 3.กัมพูชา เฉลี่ย 5.45 บาท/หน่วย 4.อินโดนีเซีย เฉลี่ย 4.21 บาท/หน่วย

5.ไทย เฉลี่ย 4.18 บาท/หน่วย โดยปลายปี 67 แตะขึ้น 4.65-6.01 บาท/หน่วย 6.เวียดนาม เฉลี่ย 3.57 บาท/หน่วย 7.ลาว เฉลี่ย 2.29 บาท/หน่วย 8.มาเลเซีย เฉลี่ย 1.80 บาท/หน่วย 9.เมียนมา เฉลี่ย 1.70 บาท/หน่วย และ 10.บรูไน เฉลี่ย 1.48 บาท/หน่วย

เรียบเรียง ejan.co