ตำรวจตั้งโต๊ะแถลงคลายปม 6 ศพ เปิดไทม์ไลน์นักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม เชื่อว่า 1 ใน 6 เป็นผู้ลงมือวางยาสารไซยาไนด์ในกระติกน้ำร้อน
จากเหตุสลดเมื่อวันที่ 16 ก.ค.67 มีผู้เสียชีวิต 6 ราย ในโรงแรมดังใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งผู้เสียชีวิตเป็นชาวเวียดนาม สัญชาติเวียดนาม 4 คน และสัญชาติอเมริกัน 2 คน
วันนี้ (17 ก.ค.67) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงความคืบหน้ากรณีพบศพชาวต่างชาติ 6 ราย เสียชีวิตในโรงแรมย่านราชประสงค์ หลังจากประชุมความคืบหน้าทางคดีในช่วงเช้าวันนี้
โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ ได้ชี้แจงรายละเอียดการเดินทางเข้าประเทศไทยของผู้เสียชีวิตทั้ง 6 รายโดยละเอียด พบว่า มีการเดินทางเข้ามาครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม เดินทางมาจากโฮจิมินห์ จากนั้นบุคคลที่เหลือได้ทยอยเดินทางเข้ามาและแยกย้ายกันเข้าห้องพัก โดยทุกคนเป็นผู้เช็คอินด้วยตนเองไม่มีบุคคลภายนอกเข้าไปในและยืนยันว่ามีผู้เข้าพักทั้งหมด 6 คน จากการตรวจสอบเว็บไซต์จองโรงแรมพบว่ามีการแจ้งเข้าพักทั้งหมด 7 คน โดยคนที่ 7 นั้นเป็นน้องสาวของหนึ่งในผู้เสียชีวิตซึ่งเดินทางเข้ามาในวันที่ 4 กรกฎาคมแต่ได้เดินทางกลับดานัง ประเทศเวียดนามแล้วตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม คาดว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ จากการสอบถามพนักงานในโรงแรมยืนยันว่า ในวันที่ 15 กรกฎาคม ผู้เข้าพักในห้อง 502 ได้สั่งอาหารจำนวนหนึ่ง คือ ข้าวผัด 5 จาน ต้มยำกุ้ง 4 จาน ผัดผักรวมสี่ ผัดผักบุ้งหนึ่งจาน และชาสอง พร้อมแก้วน้ำชาหกใบ หลังตากนั้นได้สั่ง อาหารเพิ่มรอบที่สองคือ ข้าวผัดเพิ่มเติมอีกหนึ่งจาน และ ชุดน้ำชา 6 แก้ว และกำชับให้นำมาส่งที่ห้องในเวลา 14.17 น. โดยพนักงานโรงแรมได้นำอาหารชุดแรกเข้าไปส่งที่ห้องในเวลา 13.51 น. โดยนำอาหารใส่ในถัง พร้อมด้วยชุดชาแก้วน้ำร้อน วางไว้บนโต๊ะภายในห้อง และพบผู้หญิงคนหนึ่ง (หมายเลข 5) อยู่ภายในห้องเพียงคนเดียวเป็นผู้รับอาหาร ซึ่งพนักงานได้เสนอจะชงชาให้แต่ผู้หญิงคนดังกล่าวปฏิเสธ แจ้งว่าจะทำเอง พนักงานจึงได้ออกจากห้อง ล่วงเวลาที่อยู่ในห้องทั้งหมดประมาณ 6 นาที
ยืนยันว่า หลังจากเวลา 13.57 น. ในห้องที่เกิดเหตุมีผู้หญิง (หมายเลข 5) อยู่เพียงคนเดียว หลังจากนั้นผู้เสียชีวิตอื่นๆได้ทยอยนำกระเป๋ามาไว้ที่ห้องดังกล่าวเพื่อเตรียมเช็คเอาท์ และได้เข้าไปในห้องในเวลาประมาณ 14.17 น. หลังจากนั้น ภาพจากกล้องวงจรปิดไม่พบว่ามีผู้ใดเดินออกมาจากห้องอีก ซึ่งผลการตรวจสอบสาร เบื้องต้นพบว่าในถ้วยชาทั้ง 6 ใบมีสารไซยาไนด์ จึงเชื่อว่า 1 ใน 6 ของผู้เสียชีวิตเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ โดยใช้สารดังกล่าวแต่จะนำเข้ามาหรือซื้อในประเทศไทยนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ขณะนี้ทางนิติเวชอยู่ระหว่างรอผลชันสูตรพลิกศพอย่าละเอียด รวมถึงผลการพิสูจน์หลักฐานในที่เกิดเหตุ และลายนิ้วมือดีเอ็นเอคาดว่าจะทราบผลในช่วงบ่ายวันนี้ ได้ประสานสถานทูตสหรัฐอเมริกาและสถานทูตเวียดนาม และฝ่ายความมั่นคงของเวียดนามตรวจสอบข้อมูลของผู้เสียชีวิตทั้ง 6 รายแล้ว
ทั้งนี้ จากการสอบถามข้อมูลจากญาติทราบว่า ในกลุ่มผู้เสียชีวิตมีผู้ที่เป็นสามีภรรยาประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างถนนในประเทศเวียดนามซึ่งได้ ร่วมลงทุน สร้างโรงพยาบาลในประเทศญี่ปุ่น คิดเป็นเงินไทยมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ตามที่ผู้หญิงหมายเลข 5 ได้ชักชวน แต่ไม่มีความคืบหน้า ซึ่งที่ผ่านมามีการทวงถามอยู่ตลอด ก่อนหน้านี้จึงได้มีการนัดหมายให้ไปเคลียร์กันที่ประเทศญี่ปุ่นแต่ติดขัดเรื่องการขอวีซ่าจึงเปลี่ยนมาเป็นประเทศไทย วันนี้จะสอบปากคำญาติ 3-4 คนเพิ่มเติม
ด้าน พล.ต.ต.นพศิลป์ ยืนยันว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล ของผู้เสียชีวิตทั้ง 6 รายไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมหรือแก๊งต่างๆที่เลือกมาก่อเหตุในประเทศไทยและขอยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมดูแลความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวในไทย
เรียบเรียง ejan.co