รวบ “ไอ้แขก” พ่อแท้ ๆ แอบล่วงละเมิดลูกสาว แล้วส่งคลิปให้คนอื่นดู

Author:

สืบนครบาล รวบ “ไอ้แขก” พ่อแท้ ๆ แอบล่วงละเมิดลูกในไส้ หนำซ้ำ ยังแอบถ่ายคลิปส่งให้คนอื่นดู อ้างว่าเกิดความหึงหวง

จิตใจทำด้วยอะไร พ่อบังเกิดเกล้า แอบล่วงละเมิดลูกในไส้ หนำซ้ำยังเผยแพร่คลิปไปให้คนอื่นดู

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ,พล.ต.อ. ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.,พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในสังคม โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ได้ออกลาดตระเวนออนไลน์จนทราบว่า นายสรณคม ได้ก่อเหตุบังคับล่วงละเมิดกับลูกตัวเอง และยังถ่ายคลิปเก็บไว้ หนำซ้ำยังส่งคลิปไปให้ผู้อื่นดู เพราะเกิดความหึงหวง สร้างตราบาปให้กับผู้เสียหาย จึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. รับทราบ จากนั้นกำชับให้ พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. จับกุมตัวผู้ต้องหาคนดังกล่าวให้ได้โดยเร็ว

กระทั่งวานนี้ (5 ส.ค.67) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมตัว นายสรณคม หรือแขก อายุ 36 ปี บุคคลตามหมายจับ ศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1042/2567 ลงวันที่ 31 ก.ค.67 ได้ที่บริเวณห้องเช่า ซอยสุวินทวงศ 13 แยก 19 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน และกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี โดยเด็กนั้นยินยอมหรือไม่ก็ตาม ซึ่งเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดาน”

สืบเนื่องจาก วันที่ 20 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.00 น. ขณะที่ไม่มีใครอยู่บ้าน เหลือเพียงนายสรณคม และเด็กผู้เสียหาย นายสรณคม ได้เรียกเด็กผู้เสียหายเข้ามาในห้องซึ่งอยู่ชั้น 1 จากนั้นได้ล็อคห้องและชวนเด็กผู้เสียหาย คุย ก่อนจะใช้มือจับหน้าอก และล่วงเกินเด็กผู้เสียหาย เด็กผู้เสียหายพยายามขัดขืน แต่สู้แรงของนายสรณคม ไม่ได้ เด็กผู้เสียหายได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ของป้า เด็กผู้เสียหายจึงสะบัดตัวหนีและวิ่งออกจากห้องไปบอกกับป้า จากนั้นป้าจึงไปบอกกับนายสรณคม ว่าไม่ให้มายุ่งกับเด็กอีก

ต่อมา วันที่ 14 พ.ค. 67 เวลาประมาณ 20.00 น. นายสรณคม ก็ขึ้นมามาที่ห้องของเด็กผู้เสียหาย ซึ่งอยู่ชั้น 2 จากนั้นเด็กผู้เสียหาย จึงเผลอหลับไป หลังจากที่เด็กผู้เสียหาย ตื่นขึ้นมา พบว่าถูกถอดเสื้อผ้าและรู้สึกเจ็บที่อวัยวะ ผู้กล่าวหาจึงได้พามาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีจนถึงที่สุด

หลังจากการจับกุม นายสรณคม ให้การว่าตนมีอะไรกับเด็กผู้เสียหายจริง อ้างว่ามีความรักต่อเด็ก และมีความสัมพันธ์กันประมาณ 1- 2 ปี เริ่มต้นเดิมทีเด็กผู้เสียหายเป็นลูกติดจากภรรยาเก่า และปฏิเสธว่าไม่ใช่ลูกของตน ตนเพียงแค่รับเป็นพ่อเท่านั้นเพราะตนเชื่อว่าแม่ของผู้เสียหายไปท้องกับคนอื่น ต่อมาตนได้เลิกรากัน และได้มีภรรยาใหม่มีลูกด้วยกัน 3 คน เมื่อลูกสาวคนเล็กกับภรรยาใหม่อายุได้ 2 ขวบ ได้รับเด็กผู้เสียหายมาอยู่กับครอบครัวใหม่เพื่อให้มาช่วยเลี้ยงลูกสาวคนเล็กของภรรยาใหม่ เมื่ออยู่ด้วยกันได้แอบคบหากันมาจนบัดนั้นเป็นต้นมาโดยที่ภรรยาใหม่ไม่รู้

จากการซักถามผู้ต้องหาให้การวกวนพบพิรุธหลายประการ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมทำการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของตัวผู้ต้องหา พบคลิปวีดีโอขณะล่วงเกินหลายคลิป และมีลูกสาวคนเล็กของภรรยาใหม่ปรากฎในวีดีโอคลิปด้วย ทั้งภาพ และวิดีโอโป๊เปลือยจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังพบการส่งคลิปให้กับบุคคลอื่นในแชทเฟซบุ๊กอีกด้วย

จากการซักถามพบว่า นายสรณคม จับได้ว่าเด็กผู้เสียหาย เริ่มคบหาเพื่อนชายในวัยเดียวกัน ตนได้แอบดูแชทเฟซบุ๊กระหว่างเด็กผู้เสียหายและเพื่อนชาย จึงเกิดความโมโห ส่งภาพและคลิปให้เพื่อนชายคนดังกล่าวจำนวนหลายครั้ง ต่อมาภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบคลิปขณะที่ผู้ต้องหาบังคับให้เด็กผู้เสียหายขอโทษและกราบเท้าตน

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากแม่ของเด็กผู้เสียหายว่า ตนได้เลิกรากับผู้ต้องหามาหลายปี ไม่คิดว่าผู้ต้องหาจะทำกับลูกสาวตนได้ถึงเพียงนี้ เพราะลูกสาวไม่เคยบอกตนเลยแม้แต่สักครั้ง จนกระทั่งเกิดเรื่องขึ้นตนเพิ่งทราบเรื่องทั้งหมด และได้ประสานกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา ดำเนินคดีต่อมา และยินดีที่จะตรวจ DNA ด้วย เพราะตนไม่ได้มีพฤติกรรมอย่างที่ตัวผู้ต้องหากล่าว และยังบอกว่าตัวผู้ต้องหามักจะเป็นคนดื่มสุรา และชอบโกหกอยู่เสมอ ตนจึงตัดสินใจเลิกลาแต่ครั้งนั้นมา จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง สน.หนองจอก ดำเนินคดีต่อไป

เรียบเรียง ejan.co