เจ้าของบ้านเล่านาที หญิงนั่งคุยคนเดียวหน้าศาลตายายทั้งคืน ก่อนไปยืนมองบึงน้ำกว่า 6 ชั่วโมง เผยเรื่องลี้ลับ ที่มาศาลตายาย

จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต็อก thinktong879 โพสต์คลิปสุดหลอน เมื่อเจอหญิงคนหนึ่งนั่งคุยคนเดียวหน้าศาลตายาย ก่อนไปยืนมองบึงน้ำกว่า 6 ชั่วโมง

ล่าสุดเวลา 12.30 น. วันที่ 2 ส.ค.67 นางรุจิราภา คล้ายสวน เจ้าของบ้าน เปิดเผยกับ ‘ข่าวสดออนไลน์‘ ว่า หลังจากทานข้าวเย็นกับครอบครัว เวลาประมาณ 19.00 น. ตนจึงไปเดินออกกำลังกายเหมือนประจำทุกวัน ระหว่างที่เดินนั้น เห็นเงาคล้ายคนยืนๆ นั่งๆ ผ่านช่องประตูรั้ว จึงเรียกลูกชายไปช่วยดูและพบมีผู้หญิงอายุราว 50 ปี แต่งตัวดี มายืนอยู่คนเดียว บริเวณศาลตายายใต้ต้นไทรข้างบ้าน คล้ายกำลังพูดคุยกับใคร อีกทั้งยังใช้ภาษามือด้วย ผ่านไปไม่นาน เขาก็หันหน้าไปทางบึง แต่ตนไม่ทราบว่าเขาพูดว่าอะไร ในช่วงหัวค่ำตอนเห็นผู้ชายเดินมาพูดคุยกับหญิงรายนี้ แต่สุดท้ายผู้ชายก็เดินกลับไปคนเดียว ผ่านไปประมาณ 4 ชั่วโมง ก็ยังคงอยู่ที่เดิม ตนจึงไปนอนก่อน ให้ลูกชายและลูกสะใภ้ดูสถานการณ์ต่อ

นางศิริกาญจน์ คล้ายสวน สะใภ้เจ้าของบ้าน เปิดเผยต่อว่า จนกระทั่งช่วง 22.00 น. หญิงรายนี้เปลี่ยนจากยืนหน้าศาลตายาย มายืนกลางถนนแทน ระหว่างนั้นมีประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา ถามว่ามายืนกลางถนนทำไม แต่หญิงรายนี้ก็ตะเพิดไป จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น. ขณะที่ตนออกมาดูสถานการณ์ มีผู้ชายแบกถุงบางอย่างไว้ที่ด้านหลัง พร้อมมีดมาตามกลับบ้าน แต่หญิงรายนี้ก็ไม่กลับ และหันมานั่งพูดหน้าศาลตายายต่อ ส่วนผู้ชายก็เดินกลับไป

“ต่อมาช่วงเที่ยงคืน มาดูพบว่าหญิงรายนี้นั่งท่าเทพธิดา ทำท่าเหมือนสวดภาวนา และพูดอยู่คนเดียว หันหน้าไปทางบึงน้ำ แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่รู้สึกหลอนมาก เนื่องจากรู้สึกว่าหญิงรายนี้กำลังหันมาจ้องมองตนและแฟน เลยทำให้ผวา”

“สุดท้ายช่วงเวลาประมาณ 01.30 น. แฟนต้องออกไปทำงานตั้งแต่เช้า เลยตัดสินใจไม่เฝ้าดูแล้ว อีกทั้งขณะนั้นฝนก็เริ่มตก จึงคิดว่าเดี๋ยวเขาก็กลับไปเอง และตอนเช้าที่แฟนออกไปทำงาน ก็ไม่พบแล้ว”

นางศิริกาญจน์ กล่าวว่า ในเวลานั้น ตนและครอบครัว ไม่ได้รู้สึกหลอน หรือกลัวว่าจะเป็นเรื่องสิ่งลี้ลับ แต่กังวลว่าเขามาทำอะไร หรืออาจจะสติไม่ดี เกิดปัญหาอะไรขึ้นกับเขาหรือไม่ กลัวว่าอาจมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้น แต่หลังจากที่เฝ้าดูสถานการณ์หลายชั่วโมง หญิงรายนี้มายืนที่ศาลตายาย ก็มองว่าเขาไม่น่าจะทำร้ายตัวเอง หรือเกิดเหตุการณ์อะไรไม่ดี และตัวเขาก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร

นางศิริกาญจน์ กล่าวว่า ตนเองมาอยู่บ้านสามีได้ 2 ปี ก็ทราบว่าบึงแห่งนี่มีคนเสียชีวิตบ่อย มีคนเห็นอะไรแปลกๆ ทำให้ช่วงที่ตนย้ายมาอยู่แรก มีความรู้สึกหวิวๆ บ้าง และขนลุกทุกครั้งที่ต้องเดินผ่านต้นไทร และศาลตายาย จึงไม่อยากหลบหลู่ แม้ว่าตนจะไม่เชื่อเรื่องลี้ลับก็ตาม

สำหรับศาลตายายดังกล่าวนั้น มีที่มาที่ไปมาจากเด็กหญิงชาวมุสลิมคนหนึ่งที่เดินไปกลับโรงเรียน แล้วใช้ทางลัดเดินผ่านบริเวณต้นไทรข้างบ้าน เมื่อกลับไปถึงบ้าน จึงไปบอกพ่อแม่ว่า “ไม่มีบ้านอยู่ อยู่แต่ในต้นไม้ มีคนมาพังบ้านไป ถ้าไม่มีที่อยู่ จะมาเอาชีวิตเด็กคนนี้ไป” ทำให้คนในพื้นที่เชื่อว่า เด็กหญิงรายนี้อาจเจอกับสิ่งลี้ลับ ถูกวิญญาณเข้าสิง อีกทั้งบริเวณดังกล่าวเคยมีศาล แต่มีคนมาทุบทิ้ง ครอบครัวของเด็กหญิงจึงมาขอให้ชาวพุทธช่วยตั้งศาลตายายให้ แต่ตอนแรกศาลตายายถูกตั้งไว้บนพื้น ไม่ได้อยู่บนศาล พวกตนจึงนำท่านขึ้นไปวางไว้ จากนั้นมีคนนำธูปมาปัก และเอาของมาเซ่นไหว้ กลายเป็นศาลตายายดังกล่าว

นอกจากนี้ยังมีป้ายเขียนสาปแช่ง ติดเอาไว้ที่ต้นไทรด้วย เนื่องจากว่าคนที่นำของมาเซ่นไหว้ แล้วทิ้งเอาไว้บริเวณดังกล่าว กลายเป็นขยะ และส่งกลิ่นเหม็น และวิธีนี้ก็ได้ผลด้วย

เรียบเรียง khaosod.co.th