3 ผูู้ต้องหา แฉร่วมงานปาร์ตี้ยา ถูกแจ้งข้อหาครอบครอง แต่จนท.ปล่อยตัวไม่เอาผิด เจ้าของยา

Author:

เปิดหน้าท้าชน 3 ผู้ต้องหาคดีเสพยา หอบหลักฐานร้องสื่อ อ้างกลายเป็นแพะ หลังถูกเจ้าหน้าที่รัฐ แจ้งข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง โดยไม่เป็นธรรม งงเจ้าภาพจัดปาตี้เจ้าของของยาตัวจริงกลับไม่ถูกดำเนินคดี

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอานนท์  อายุ 24 ปี ชาว จ.ตราด นายปิยะ อายุ 24 ปี ชาว อ.ท่าใหม่ จันทบุรี  และนายจักรกฤษณ์  อายุ 29 ปี ชาว อ.ขลุง จ.จันทบุรี ผู้ต้องหาในคดีเสพยาเสพติด และข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง จำนวน 3 คน ที่อยู่ในระหว่างการประกันตัว ได้หอบหลักฐาน ซึ่งเป็นเอกสารบันทึกการจับกุม , สำเนาหนังสือร้องเรียน , ภาพถ่ายตอนถูกเจ้าหน้าที่จับกุม , แผ่นซีดีบันทึกคลิปเสียงการสนทนากับเจ้าของยาเสพติดตัวจริง ตลอดจนภาพหลักฐานเวลานัดหมายการจัดปาร์ตี้ยา มาขอร้องเรียนขอความเป็นธรรมเข้าพบกับสื่อ โดยอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่รัฐชุดจับกุม บุกจับปาร์ตี้เสพยา แจ้งข้อกล่าวหาไม่เป็นธรรม และยังปล่อยตัวเจ้าของยาเสพติดตัวจริงไป โดยไม่ต้องถูกดำเนินคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ต้องทั้ง 3 คน ที่ยอมเปิดเผยข้อมูลร้องเรียน ต่อสื่อมวลชน โดยระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 67 ได้มี นาย ธวัชชัย ซึ่งเป็นเจ้าของยาเสพติด ได้โทรศัพท์นัดหมายให้ ทั้ง 3 คน พร้อมกับ น.ส. เอ นามสมมุติ เด็กเอนเตอร์เทน มาร่วมปาร์ตี้ยาเสพติด ที่บ้านไม่มีเลขที่ ในสวนผลไม้ หมู่ 3 ต.มะขาม อ.มะขาม จ.จันทบุรี  จนเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่บุกเข้ามาในห้อง ระหว่างนั้น นาย ธวัชชัย ได้โยนถุงยาเสพติดทิ้งเอาไว้บนพื้น

เมื่อเจ้าหน้าที่ได้เปิดไฟทำการตรวจค้นและพบถุงยาเสพติดดังกล่าว ได้ถามว่าเป็นยาของใครแต่พวกตนไม่ยอมรับ ขณะเดียวกันได้รีบนำตัว นาย ธวัชชัย ออกไปด้านนอกคนเดียว ส่วนพวกตน 4 คนรวมหญิงสาวเด็กเอน ถูกจับตรวจปัสสาวะ และพบมีผลเป็นบวก ซึ่งก็ยอมรับสารภาพว่าได้ร่วมกันเสพยาจริง

ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ยังอ้างอีกว่า จากนั้นได้ถูกคุมตัวมายังกองกำกับการแห่งหนึ่งและถูกบังคับ ให้ยอมรับว่ายาเป็นของใครแต่พวกตนยังคงปฏิเสธ แต่ยอมรับสารภาพว่าได้เสพยาจริง เบื้องต้นจึงพวกตนรวมเด็กเอน 4 คน ถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี)ไว้ในครอบครอง ,ร่วมมีวัตถุออกฤติต่อจิตประสาทประเภท2(เคตามีน)ไว้ในครอบครอง” ซึ่งข้อหานี้พวกตนทั้ง4 คน ปฏิเสธไม่ยอมรับ   ส่วนในข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)” พวกตนทั้ง 3 คน ยอมรับสารภาพ และยินยอมที่จะเข้ารับการบำบัดตามกระบวนการขั้นตอน   แต่ทั้งนี้ได้ตั้งข้อสังเกตุว่า เหตุใด นาย ธวัชชัย เจ้าภาพจัดปาร์ตี้และเจ้าของยาเสพติดตัวจริง กลับหายตัวไปเฉยๆ และไม่ถูกดำเนินคดี ซึ่งตั้งแต่วันที่ถูกจับจนถึงวันนี้ก็ไม่ได้เจอกันอีก มีเพียงโทรมาขอโทษและเอ่ยว่าจะรับผิดชอบ ซึ่งได้บันทึกคลิปเสียงไว้เป็นหลักฐานแล้ว

อย่างไรก็ตามหลังการถูกแจ้งข้อหาแล้วรู้สึกว่าไมได้รับความยุติธรรม ได้เคยไปร้องเรียนกับสื่อบางสำนัก แต่กลับถูกปฏิเสธการช่วยเหลือ อ้างว่ามีผู้โทรมาขอว่าอย่าทำข่าว เนื่องจากอาจจะไปทำให้ ปลัด กับนายอำเภอ มีปัญหา จึงได้มาร้องเรียนกับสื่อสำนักอื่น และขอยืนยันว่าการร้องเรียน เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้มีอามิจสินจ้างให้กับสื่อเพื่อให้ช่วยนำเสนอข่าวนี้

ขณะเดียวกันยังได้ทำหนังสือร้องเรียนร้องทุกข์ ต่อศูนย์ดำรงค์ธรรม เพื่อขอความเป็นธรรม และล่าสุดได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายอำเภอเมืองจันทบุรี เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกิดขึ้นอีกด้วย

เรียบเรียง matichon.co.th