พยัคฆ์ร้ายเทพนคร ร่วมสืบ TOP G บุกทลาย “ดาว บางแค” แก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ทั่วกรุงเทพฯ นำมาตอกเลขสวมทะเบียนขายทั้งในประเทศและส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน
ชาวกรุงเทพฯ มีใครเคยรถจักรยานยนต์หายมั้ยคะ
วานนี้ (25 ก.ค.67) พล.ต.ท.ธิติแสงสว่าง ผบช.น.,พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น.ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจาก กก.สส.1 บก.สส.บช.น. พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 1 2 3 4 และชุดพยัคฆ์ร้ายเทพนคร ร่วมกับสืบสวนอาญาขั้นพิเศษ TOP G จับกุมตัว
1.นายสุรพงษ์ อายุ 33 ปี ชาว ต.บางดี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง โดยกล่าวหาว่า “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและยาไอซ์) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย”
2.นายบุญคงคา อายุ 43 ปี ชาวบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพฯ โดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษ (ยาบ้าและยาไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและยาไอซ์) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย”
จับกุมได้ภายในบ้าน ม.5 ถ.กำนันแม้น แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพฯ พร้อมตรวจยึดของกลาง ดังนี้
1.รถจักรยานยนต์ 6 คัน
2.โครงรถจักรยานยนต์ 6 คัน
4.เครื่องรถจักรยานยนต์ 1 เครื่อง
5.ซากเครื่องยนต์ 2 เครื่อง
6.ป้ายรถจักรยานยนต์ 7 แผ่น
7.ใบคู่มือจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ 12 เล่ม
8.สมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม
9.โทรศัพท์ 1 เครื่อง
10.หมวกนิรภัย 3 ใบ
11.กล้องวงจรปิด 2ตัว
12.รองเท้า 3 คู่
13. เสื้อคลุมและเสื้อยืด 3 ตัว
14. อุปกรณ์ช่าง 8 ชิ้น
15. ชุดตอกเลข 22 ชิ้น
พบประวัติบุคคลต้องโทษ ดังนี้
1.นายบุญคงคา เคยต้องโทษในความผิดเกี่ยวกับ คดีลักทรัพย์ เมื่อปี พ.ศ.2551 ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ, คดีความผิดตาม พรบ.อาวุธปืน เมื่อปี พ.ศ.2561 ในพื้นที่ สน.บางขุนเทียน, คดีร่วมกันลักทรัพย์ จยย. เมื่อปี พ.ศ.2562 ในพื้นที่ สภ.ชัยพฤกษ์
2.นายสุรพงษ์ เคยต้องโทษในความผิดเกี่ยวกับคดีลักทรัพย์ เมื่อปี พ.ศ.2557 ในพื้นที่ สน.บางขุนเทียน
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนหาข่าว กรณีมีกลุ่มคนร้ายตระเวนลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ และนำรถที่โจรกรรมมาทำการส่งขายและบางคันนำมาตอกเลขตัวถังใหม่เพื่อสวมทะเบียนรถคันอื่นส่งขายภายในประเทศตลอดจนส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน มาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี จนสืบทราบว่าบ้าน หมู่ 5 ถนนกำนันแม้น แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง เป็นแหล่งพักพิงชำแหละรถและเป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติดในชุมชนย่านบางแค โดยในแต่ละวันจะมีนายบุญคงคา ซึ่งเป็นหัวหน้าระดับสั่งการให้สมาชิกในแก็งออกตระเวน ทำการลักขโมยรถจักรยานยนต์ในหลายพื้นที่ในกรุงเทพ เช่น ย่านรามคำแหง บางเขน ทุ่งสองห้อง มักกะสัน คลองตัน พระโขนง และอีกหลายพื้นที่ย่านฝั่งธนบุรี
จากการสืบสวนพบว่า ในบางคืนมีการตระเวนลักรถและนำมาสวมทะเบียนมากถึง 4 คัน และว่ามีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจนเป็นทอด ๆ เพื่อหลบเลี่ยงและยากต่อการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ โดยจะนำรถจักรยานยนต์มาทำการรื้อชำแหละรถและตอกเลขตัวถังใหม่ โดยใช้ทะเบียนรถที่ประมูล, รับซื้อหรือรับจำนำมาได้แล้วทำการสวมทะเบียนกับรถคันที่ถูกโจรกรรมมา โดยสมุนที่ทำหน้าที่รับรถตามที่สั่งการจะได้ค่าจ้าง ครั้งละประมาณ 1,500–2,000 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ขอออกหมายค้นต่อศาลอาญาธนบุรี เพื่อทำการตรวจค้น พบ และยึดสิ่งของซึ่งมีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยผิดกฎหมาย หรือได้ใช้ หรือตั้งใจจะใช้ในการกระทำความผิด อันเกี่ยวข้องกับการโจรกรรมรถและความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และเพื่อดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจริง แต่ในส่วนพฤติกรรมการโจรกรรมรถผู้ถูกจับให้การภาคเสธว่าเคยทำมาก่อนแต่ได้เลิกทำแล้วเมื่อต้นปี 67 ที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อจึงได้ตรวจยึดทรัพย์สินไว้เพื่อตรวจสอบต่อไป
โดยจากการสืบสวนขยายผลและตรวจสอบข้อมูลรวมถึงเส้นทางการเงินของนายบุญคงคาหรือดาว เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบว่า ยังมีหลักฐานอันมีพฤติการณ์และข้อบ่งชี้ว่ายังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจรกรรมรถ อีกทั้งยังพบข้อมูลการติดต่อพูดคุยกับผู้ร่วมขบวนการการโจรกรรมรถจักรยานยนต์นี้อีกจำนวนมาก ซึ่งพบความเชื่อมโยงไปถึงร้านซ่อมรถจักรยานยนต์และบริษัทขนส่งรถจักรยานยนต์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการขยายผลและดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก็งโจรกรรมรถจักรยานยนต์รายนี้ต่อไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ถูกจับทั้งสองพร้อมของกลาง นำส่ง พงส.สน.บผางขุนเทียน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เรียบเรียง ejan.co