สายเขียวได้เฮ! “เศรษฐา” ไม่นำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด จ่อออก พ.ร.บ.คุมกัญชาแทน “อนุทิน” ลั่นเปลี่ยนกฎไปมากระทบเชื่อมั่น-ลงทุน
วันนี้ (24 ก.ค.67) สืบเนื่องจากวานนี้ 23 ก.ค.67 ที่ทำเนียบรัฐบาล ช่วงก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เชิญนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมหารือเพื่อหาข้อยุติประเด็นกระทรวงสาธารณสุขจะนำกัญชากลับเป็นยาเสพติด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กราบขอบคุณท่านนายกฯ ที่กรุณาพิจารณาและตัดสินใจว่าอยากให้ประเด็นดังกล่าวดำเนินการโดยการออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เพื่อควบคุมการบังคับใช้กัญชาให้ใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ วิจัยและเศรษฐกิจเท่านั้น
นายอนุทิน กล่าวว่า กรณีที่หากมีการเปลี่ยนให้นำช่อดอกกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 ได้คุยกับอธิการบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้บอกว่ามหาวิทยาลัยไปร่วมลงทุนกับต่างชาติกว่า 900 ล้านบาท ถ้าเอากัญชากลับมาเป็นยาเสพติดก็จะฟ้องรัฐบาลและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) รัฐบาลพร้อมหรือไม่ ซึ่งผมไม่พร้อม นอกจากนี้ การเปลี่ยนไปมาก็ยังกระทบความมั่นใจกับผู้จะมาลงทุนในประเทศไทย ใครจะกล้ามาลงทุนในไทย เพราะกฎระเบียบเปลี่ยนได้ตลอดเวลา
ขณะเดียวกัน กรณีการพบกับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างพาครอบครัวไปพักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ไม่มีการพูดคุยเรื่องกัญชาที่จะถูกนำกลับเป็นยาเสพติดเลยแม้แต่น้อย เพราะไม่ใช่เรื่องของท่าน ซึ่งท่านมาพักผ่อน เรื่องกัญชาเป็นเรื่องของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น และไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลด้วยซ้ำ
ขณะที่เพจเฟซบุ๊คเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย แถลงการณ์ 3 ประการสำคัญ หลังคำสั่งนายกรัฐมนตรีให้มีการใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมกัญชา ดังนี้
1.เมื่อสถานะกัญชาถูกกำหนดว่าให้ควบคุมโดยกฎหมายเฉพาะในระดับพระราชบัญญัติโดยไม่กลับไปเป็นยาเสพติดอีก หัวใจสำคัญนับจากนี้คือการสร้างกฎหมายแม่บทการควบคุมกัญชาเชิงระบบในประเทศไทย จึงขอให้ชาวกัญชาและประชาชนโปรดติดตามกระบวนการเดินหน้าจัดทำ พ.ร.บ.กัญชานับตั้งแต่นี้เพราะกฎหมายฉบับนี้จะมีความสำคัญในการกำหนดโครงสร้างเชิงระบบเกี่ยวกับการควบคุมกัญชาในประเทศไทย
2.เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยยังคงขับเคลื่อนตามแผนปฏิบัติการจนกว่าพระราชบัญญัติกัญชาจะได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาและบังคับใช้
3.ขอบคุณนายกรัฐมนตรีและผู้รับผิดชอบทุกฝ่ายที่เห็นแก่ข้อเท็จจริงรอบด้านสั่งให้การควบคุมกัญชากระทำโดยการใช้กฎหมายพระราชบัญญัติ อีกทั้งขอบคุณพรรคภูมิใจไทยที่ยืนหยัดปกป้องนโยบายกัญชา เพื่อให้การควบคุมกัญชาเป็นไปภายใต้กฎหมายพระราชบัญญัติกัญชา
ความสำเร็จคราวนี้ย่อมเกิดขึ้นจากจิ๊กซอทุกตัวที่เชื่อมต่อกันจนเป็นพลัง ทั้งที่แสดงตนและไม่แสดงตน ทั้งภาควิชาการ ภาคการเมือง ภาคประชาชน ถือเป็นการปฏิบัติภารกิจร่วมกันในการกำหนดนโยบายกัญชาที่ถูกต้องให้กับประเทศไทย
เรียบเรียง ejan.co